อยากดูรถรุ่นอะไรเลือกดูได้เลยนะ

-------------------------------------- ค้นหาตามยี่ห้อรถ -------------------------------------
TOYOTAVOLVOTHAI RUNGSUZUKISUBARU SSANGYONGSKODASEATSAABROVERROLLSROYCEVOLKSWAGENRENAULT PORSCHEPEUGEOTOPELNISSANMITSUBISHIMERCEDES-BENZMAZDAMASERATILOTUSLINCOLNLEXUSLAND ROVERLAMBORGHINI CITROENDAIHATSUFERRARIKIAJEEPJAGUARISUZUHYUNDAIHONDAHINOFORDFIATDAEWOO CHRYSLERCHEVROLETBMWBENTLEYAUSTIN MINIAUDIALFA ROMEOACURA

วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2552

Saab 9-3X จับแวกอนมายกสูง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2552 09:23 น.
ซาบในบ้านเราคงไม่ต้อง พูดถึง ส่วนอนาคตในตลาดต่างแดนก็อยู่บนปากเหว หมิ่นเหม่ต่อการถูกขายทอดออกจากเครือจีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์สที่ประสบปัญหาในเรื่องการขาดทุนเช่นเดียวกัน แต่ถึงกระนั้น แบรนด์ดังจากสวีเดนที่มีข่าวว่าจะจับมือกับทาทา มอเตอร์สในการผลิตเครื่องบินขับไล่ ก็ยังมีอะไรใหม่ๆ มากระตุ้นตลาดเพื่อเพิ่มตัวเลขรายได้เข้าบริษัท

คราวนี้มากับรหัส X ในการเพิ่มความหลากหลายในด้านประโยชน์ใช้สอยให้กับสายพันธุ์ 9-3 ที่ยังไม่ยอมเปลี่ยนโฉมสักทีทั้งที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2002 โดยถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ 3 ของซาบที่ใช้รหัส X ในการทำตลาด ต่อจาก 9-2X ที่เปิดตัวในปี 2005 และเล่นง่ายด้วยการนำซูบารุ อิมเพรซา แวกอนรหัส GD รุ่นสุดท้ายมาปรับนิดโน่นหน่อยส่งออกมาขาย และตามด้วย 9-7X ที่เปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกับ 9-2X และก็เดินตามคอนเซ็ปต์เดิม คือ นำรถยนต์ในเครือ (จีเอ็ม เอ็นวอย หรือเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์) มาแต่งหน้าทาปากใหม่

จะว่าตื่นตาตื่นใจก็คงไม่ถึงกับขนาดนั้น เพราะ 9-3X ก็เหมือนกับงานรีเมคเพิ่มมูลค่าแบบไม่ต้องลงทุนมาก เพราะนี่คือเวอร์ชันในสไตล์ยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อบนตัวถังแวกอนเหมือนกับพวกซูบารุ เลกาซี่ เอาท์แบ็ค ด้วยการนำรุ่น 9-3 คอมบิ หรือตัวถังแวกอนมายกสูงและเสริมกาบสีดำด้านตามกันชนหน้า-หลัง หรือซุ้มล้อทั้ง 4 ด้านเพื่อให้ดูสมบุกสมบันขึ้น และมีการแต่งหน้าทาปากนิดหน่อย เพื่อให้ตัวรถดูสดใหม่ แถมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของตัวรถก็มีอยู่แล้ว เพราะเปิดตัวขายเมื่อเดือนมีนาคม 2008 ในชื่อ XWD ให้กับ 9-3 ที่เป็นเวอร์ชันแอโรตัวแรง และรุ่นพิเศษเทอร์โบ เอ็กซ์

ในรุ่นใหม่นี้ถูกยกตัว ถังให้สูงขึ้น 35 มิลลิเมตรเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเครื่องยนต์เบนซิน หรือ 20 มิลลิเมตรเมื่อเทียบกับรุ่นเทอร์โบดีเซล ส่วนทางเลือกของเครื่องยนต์ในช่วงแรกมีแค่ 2 แบบ คือ เบนซิน 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 30.5 กก.-ม. ที่มาในรอบต่ำและเป็น Flat Torque ระหว่าง 2,000-4,500 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.2 วินาที

อีกทางเลือกเป็นเทอร์โบดีเซล 1,900 ซีซีแบบ 4 สูบ มีกำลังสูงสุด 180 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 40.8 กก.-ม. ซึ่งทั้ง 2 รุ่นเลือกจับคู่ได้ทั้งเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ

หลังจากเปิดตัวแล้ว คาดว่าซาบน่าจะส่ง 9-3X ลงลุยตลาดยุโรปไม่เกินกลางปีนี้ โดยราคายังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้





Nissan GT-R SpecV ลดน้ำหนัก รีดสมรรถนะ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มีนาคม 2552 08:14 น.
ทิ้งระยะจากการเปิดตัว เวอร์ชันพิเศษที่รีดกำลังเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติอีก 5 แรงม้าสำหรับขายในบ้านตัวเองและยุโรปได้ไม่นาน ทางด้านนิสสันก็ทำเอาบรรดาแฟนๆ ที่เพิ่งตัดสินใจรุ่นพิเศษที่ว่าถึงกับเซ็งไปตามๆ กัน เพราะจัดการเผยสุดยอดรุ่นพิเศษอย่าง SpecV ที่สร้างชื่อตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นสกายไลน์ GT-R ออกมาทำตลาดในญี่ปุ่น โดยเริ่มขายเมื่อ2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา


ความพิเศษของ SpecV อยู่ที่การเพิ่มขีดความสามารถของ GT-R กับการใช้เทคโนโลยีจากสนามแข่งเพื่อการใช้งานบนถนน ด้วยการลดน้ำหนักให้กับตัวรถ และเพิ่มเรี่ยมแรงให้กับเครื่องยนต์ เพื่อลดอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักให้น้อยลง อีกทั้งรูปลักษณ์ภายนอกยังได้รับการตกแต่งและเสริมความดุดันจากรุ่นมาตรฐาน จนสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน

การพัฒนามีขึ้นภายใต้การผสมผสานระหว่างปรัชญาดั้งเดิมของการสร้าง ‘สุดยอดซุเปอร์คาร์ที่ใครก็สามารถสัมผัสถึงสมรรถนะในการขับเคลื่อนไม่ว่าจะ เป็นบนเส้นทางไหนก็ตาม’ ให้เข้ากับแนวคิดใหม่ ‘ในการผสมผสานความลงตัวเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างมนุษย์กับเครื่อง จักร’

จนนำไปสู่ SpecV ที่มีน้ำหนัก 1,680 กิโลกรัม จากเดิมอยู่ที่ 1,740 กิโลกรัมด้วยการเปลี่ยนมาใช้ชิ้นส่วนตัวถังในบางจุดที่ผลิตจากคาร์บอนไฟ เบอร์ ซึ่งก็รวมถึงสปอยเลอร์หลัง กระจังหน้า และท่อระบายความร้อนของชุดเบรก

อีก ทั้งในรุ่นนี้ยังปรับเปลี่ยนจำนวนเบาะนั่งจากแบบ 2+2 ที่มีเบาะนั่งขนาดเล็กที่ด้านหลังในรุ่นปกติมาเป็นแบบ 2 ที่นั่งพันธุ์แท้อีกด้วย และเปลี่ยนมาใช้เบาะนั่งของ Recaro ที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์อีกด้วย รวมถึงการใช้วัสดุประเภทนี้ในการตกแต่งทุกรายละเอียดภายในห้องโดยสาร


ขนาดตัวถังไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก มีความยาวลดลง 5 มิลลิเมตรมาอยู่ที่ 4,650 มิลลิเมตร กว้าง 1,895 มิลลิเมตร สูง 1,370 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,780 มิลลิเมตร พร้อมกับตัวถังสีพิเศษ Ultimate Black และเสริมหล่อด้วยล้อแม็ก Forged ลายพิเศษซึ่งทาง NISMO ผลิตขายออกมาเป็นชุดแต่งตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 ประกบคู่กับยางขนาด 255/40ZRF20 สำหรับด้านหน้า และ285/35ZFR20 สำหรับด้านหลัง

ในส่วนของเครื่องยนต์ยังยึดสเปกของตัวที่เพิ่งได้รับการอัพเกรดจำนวน ม้าในคอกเพิ่มขึ้นอีก 5 ตัว ซึ่งขุมพลังรหัส VR38DETT แบบวี6 ทวินแคม 3,800 ซีซี เทอร์โบมีกำลังสูงสุด 485 แรงม้า ที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 60.0 กก..-ม. ที่ 3,200-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์แบบ Dual-Clutch 6 จังหวะสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ซึ่งจากน้ำหนักที่ลดลง 60 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นปกติแล้ว SpecV สามารถตอบสนองต่อสมรรถนะในเรื่องอัตราเร่งที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

นอกจากนั้นนิสสันยังอัพเกรดระบบช่วงล่างบนพื้นฐานของปีกนก 2 ชั้นที่ด้านหน้า และมัลติลิงก์ที่ด้านหลังด้วยชุดโช้กอัพจาก Bilstien ขณะที่ดิสก์เบรกเปลี่ยนมาเป็นแบบคาร์บอน เซรามิกด้านหน้ามีขนาด 390 มิลลิเมตรและด้านหลัง 380 มิลลิเมตร ซึ่งงานนี้ทาง Brembo เป็นผู้ผลิตให้

นิสสันเปิดเผยว่า SpecV จะมีการจำหน่ายผ่านทางดีลเลอร์เพียง 7 แห่งเท่านั้นในญี่ปุ่น ซึ่งดีลเลอร์ที่รับผิดชอบการขายนี้จะมีเจ้าหน้าที่ซึ่งผ่านการอบรมและมีความ เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ GT-R SpecV และมีความรู้เรื่องการแข่งรถในสนามเป็นอย่างดี เพื่อคอยให้คำแนะนำลูกค้า

ราคา อยู่ที่ 15,750,000 เยน หรือ 5.5 ล้านบาท หรือแพงขึ้นจากรุ่นปกติเกือบเท่าตัว (ราคาอยู่ที่ 8,610,000-9,24,000 เยน หรือ 3.01-3.23 ล้านบาท) ส่วนเรื่องการส่งออกมาขายในตลาดนอกญี่ปุ่นยังไม่มีการเปิดเผยในตอนนี้





Dodge Circuit EV : โลตัสเวอร์ชันพลังไฟฟ้า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มีนาคม 2552 13:08 น.
ในที่สุดเวอร์ชันขายจริงของรถสปอร์ต พลังไฟฟ้าจากค่ายดอดจ์ก็เผยโฉมออกมาแล้ว ซึ่งจะว่าไปแล้วอะไรหลายอย่างก็ไม่ได้ต่างจากรุ่นต้นแบบที่ค่ายไครสเลอร์นำ ออกมาเผยโฉมเมื่อปลายปี 2008 เรียกว่าแค่ปรับนิดโน่นไหน และเปลี่ยนมาใช้ชื่อใหม่ก็พร้อมลงตลาดในช่วงปลายปี 2009 ได้แล้ว

โปรเจ็กต์ผลิตรถยนต์พลังไฟฟ้าทั้งในรูป แบบพันธุ์แท้ และพวกพันธุ์ทางที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง E-REV หรือ Extended Range Electric Vehicle เป็นโปรเจ็กต์ที่ทางไครสเลอร์นำเสนอออกมาประมาณเดือนสิงหาคม 2008 พร้อมกับวางเป้าหมายในการเจาะตลาดภายในปี 2010 โดยมีรถยนต์ 3 รุ่นจาก 3 แบรนด์หลัก คือ ดอดจ์, ไครสเลอร์ และจี๊ป เป็นหัวหอกในการทำตลาด


สิ่งที่แปลกและ แตกต่างออกไปคือ ค่ายดอดจ์ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีอิมเมจเกี่ยวกับความแรงและสมรรถนะ พอๆ กับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ และทางค่ายแกะเขาเหล็กเลือกเจาะตลาดสปอร์ต แต่ทว่างานนี้มีปัญหา เพราะสปอร์ตที่มีขายภายใต้ชื่อของตัวเองมีเพียงหนึ่งเดียว คือ ไวเปอร์ ซึ่งดูแล้วไม่น่าเหมาะที่จะนำมาพัฒนาเป็นรถสปอร์ตพลังไฟฟ้า ทางดอดจ์ก็เลยหันไปจับมือกับโลตัสในการขอหยิบยืมร่างของสปอร์ตเครื่องยนต์ วางกลางอย่างรุ่นยูโรป้า เอสใหม่มาใช้ในการทำตลาดแทน

เวอร์ชันจำหน่ายจริงที่เปิดตัวในดี ทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2009 มาพร้อมกับหน้าตาที่เปลี่ยนไปจากรุ่นต้นแบบ โดยเฉพาะรูปลักษณ์ด้านหน้าซึ่งถูกออกแบบให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ทางด้าน กระจังหน้าของค่ายดอดจ์ ซึ่งมีซี่กระจังเป็นแบบกากบาท และงานนี้เป็นโปรเจ็กต์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อท้าลุยกับค่ายเทสล่าโดยเฉพาะ

นั่นก็เลยทำให้เซอร์กิต อีวีเป็นรถสปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าพันธุ์แท้ ไม่มีเครื่องยนต์มาคอยทำหน้าที่ช่วยชาร์จกระแสไฟฟ้าเหมือนกับพวก E-REV โดยเครื่องยนต์ 2,000 ซีซีเทอร์โบของค่ายจีเอ็มที่เคยวางอยู่กลางลำของโลตัส ยูโรป้า เอส ถูกถอดออกและแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดถึง 268 แรงม้า และใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไออนในการเก็บกระแสไฟฟ้า

สมรรถนะเหลือเฟือด้วย อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 5 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 193 กิโลเมตร/ชั่วโมง ควอเตอร์ไมล์ หรือระยะ 0-402 เมตรใช้เวลาต่ำกว่า 13 วินาที และแบตเตอรี่ต่อการชาร์จจนเต็ม 1 ครั้งแล่นทำระยะทางได้ประมาณ 241-322 กิโลเมตร โดยที่ไม่มีการปลดปล่อยมลพิษออกมาจากปลายท่อไอเสีย และมีระบบชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่เมื่อมีการถอนคันเร่ง หรือเบรก เหมือนกับระบบในรถยนต์ไฮบริด


ในเรื่องของตัวรถ มีขนาดที่ปราดเปรียวและคล่องตัวด้วยความยาว 3,900 มิลลิเมตร กว้าง 1,714 มิลลิเมตร สูง 1,150 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,330 มิลลิเมตร สวยและเร้าใจด้วยล้อแม็กขนาด 17 นิ้วกับยางไซส์แปลกอย่าง 195/45ZR17 ที่ล้อหน้า และล้อ 18 นิ้วประกบยางขนาด 235/40ZR18 ที่ด้านหลัง โดยแม้จะเป็นรถสปอร์ตพลังไฟฟ้า แต่ก็มีการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันทั้งเครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียงระดับพรีเมียม และกระจกไฟฟ้า โดยที่ไม่ต้องกลัวว่ากระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่จะหมด

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด โดยเฉพาะปํญหาเกี่ยวกับเรื่องกระเป๋าเงินของไครสเลอร์ที่ดูเหมือนว่าในช่วงนี้จะวิกฤตอย่างมาก เซอร์กิต อีวีจะถูกส่งขายในสหรัฐอเมริกาปลายปี 2009 ตามกำหนดการเดิมที่วางเอาไว้ โดยโปรเจ็กต์นี้นอกจากรถสปอร์ตของดอดจ์แล้ว ก็จะมีเอ็มพีวีรุ่นทาวน์แอนด์คันทรีของไครสเลอร์ และจี๊ป เพทริออต อีวี เพียงแต่ 2 รุ่นนี้จะเป็นรถยนต์ประเภท E-REV ไม่ใช้รถยนต์พลังไฟฟ้าพันธุ์แท้เหมือนกับดอดจ์ เซอร์กิต

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552

เบนซ์รามฯส่ง “อินไซท์ ไฮบริด” ราคา 1.99 ล้าน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 กุมภาพันธ์ 2552 19:12 น.
หลังเปิดตัวในตลาดโลกที่ งานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา วันนี้(26 ก.พ.) BRG รามคำแหงกรุ๊ป จัดการนำเข้า “ฮอนด้า อินไซท์ ไฮบริด” มาทำตลาดเป็นรายแรกในไทย พร้อมชูคอนเซปต์ Green Machine ยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม กับราคา 1.99 ล้านบาท

รถอเนกประสงค์ 5 ที่นั่งรุ่นใหม่ มากับรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวทันสมัย มิติตัวถัง ยาว 4,390 มม. กว้าง 1,695 มม. สูง 1,425 มม. เพียบพร้อมด้วยออปชันความสะดวก-ปลอดภัย อาทิ ไฟใหญ่หน้าแบบ HID ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง เบาะแถวสองพับราบไปกับพื้นห้องโดยสารด้านหลังเพิ่มความอเนกประสงค์ หน้าปัดสองชั้น โดยมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ รวมถึงหน้าจอแสดงผลการชาร์จหรือช่วยขับเคลื่อนของมอเตอร์ไฟฟ้าจะอยู่ด้าน ล่าง ขณะที่ด้านบนเป็นการแสดงผลความเร็วด้วยตัวเลขดิจิตอล ซึ่งสามารถเปลี่ยนโทนสีของตัวเลขตามระดับความเร็ว เพื่อบอกให้ทราบถึงความประหยัดน้ำมัน ถุงลมนิรภัยคู่หน้าซ้ายขวา ระบบความปลอดภัย ABS และ EBD

สำ หรับระบบไฮบริด IMA หรือ Integrated Motor Assist เป็นรูปแบบของ Mild Hybrid ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่ในการช่วยขับเคลื่อนและชาร์จกระแสไฟฟ้า ส่วนหน้าที่หนักจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,339 ซีซี 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 88 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 14 แรงม้า ที่ 1,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 78 นิวตัน-เมตร ที่ 1,000 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

อินไซท์ ไฮบริด เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ขณะที่ระบบพวงมาลัยเป็นแบบแร็คแอนพิเนียน ด้านระบบกันสะเทือนหน้าแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท หลังเป็นทอร์ชันบาร์ ส่วนอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ระดับ 26-30 กิโลเมตรต่อลิตร

ฮอนด้า อินไซท์ ไฮบริด ราคา 1.99 ล้านบาท แต่ในช่วงแนะนำ BRG รามคำแหงกรุ๊ป มอบส่วนลดให้ทันที 1 แสนบาท ซึ่ง“เกรย์ มาร์เก็ต”รายนี้ ยังจัดงาน BRG Mini Motor Show ที่เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา ระหว่าง 25 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคมนี้ โดยนำรถยนต์รุ่นอื่นๆมาโชว์พร้อมขาย กับแคมเปญพิเศษมากมาย











ผู้ติดตาม