อยากดูรถรุ่นอะไรเลือกดูได้เลยนะ

-------------------------------------- ค้นหาตามยี่ห้อรถ -------------------------------------
TOYOTAVOLVOTHAI RUNGSUZUKISUBARU SSANGYONGSKODASEATSAABROVERROLLSROYCEVOLKSWAGENRENAULT PORSCHEPEUGEOTOPELNISSANMITSUBISHIMERCEDES-BENZMAZDAMASERATILOTUSLINCOLNLEXUSLAND ROVERLAMBORGHINI CITROENDAIHATSUFERRARIKIAJEEPJAGUARISUZUHYUNDAIHONDAHINOFORDFIATDAEWOO CHRYSLERCHEVROLETBMWBENTLEYAUSTIN MINIAUDIALFA ROMEOACURA

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

ทันใจ “นิสสัน แฟร์เลดี้ 370Z” ถึงไทยพร้อมขาย 5.09 ล.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มกราคม 2552 14:54 น.
ไม่ ต้องปล่อยให้สาวกแฟร์เลดี้ต้องคอยกันนาน ค่ายอีตั้น อิมปอร์ต เกาะกระแสรถสปอร์ตมาแรง คว้า นิสสัน แฟร์เลดี้ 370Z หลังเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นแบบสดๆ ร้อนๆ มาเผยโฉมในเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอบรับลูกค้าผู้หลงใหลในความเร็ว

นิสสัน แฟร์เลดี้ 370Z ได้รับการออกแบบใหม่หมดทุกรายละเอียดทั้งภายนอกและภายใน โดยภายนอกเน้นความเป็นสปอร์ต เฉียบคม ดุดันกว่าโฉมก่อนหน้าอย่าง 350Z ดีไซน์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ (AeroDynamic) พร้อมสปอยเลอร์ท้ายที่ช่วยเพิ่มแรงกดของลม เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง และสะดุดตา กับไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง

ขณะ ที่ความยาวตัวรถสั้นลงกว่าเดิม 65 มม. ระยะฐานล้อลดลง 100 มม. เพื่อการควบคุมที่คล่องตัว เครื่องยนต์ติดตั้งต่ำลงเล็กน้อย เพื่อให้คนขับนั่งชิดกับพื้นถนนกว่าเดิมอีก 15 มม. และล้อแมกซ์ลายใหม่ 5 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว

สำหรับภายใน แผงคอนโซลและเส้นสายต่างๆ มีความโค้งมนมากกว่าเดิม และบริเวณคอนโซลกลางติดตั้งจอดิสเพลย์ขนาดใหญ่ มาตรวัดทรงกลม 3 ตัว ติดตั้งให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น สามารถอ่านค่าต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ช่องกระโปรงท้ายใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น โดยไม่มีคานเหล็กมาขวางเหมือน 350Z และมีช่องเก็บของเพิ่ม เบาะนั่งสปอร์ตหุ้มหนัง พร้อมระบบป้องกันการกระแทกที่พนักพิงศรีษ พวงมาลัยใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย

นิ สสัน แฟร์เลดี้ 370Z มาพร้อมขุมพลังใหม่ VQ37VHR วี6 DOHC 24 วาล์ว 3,700 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผันรุ่นใหม่ที่เรียกว่า VVEL หรือ Variable Valve Event and Lift ซึ่งมีกำลังอยู่ที่ 336 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 37.2 กก.-ม.ที่ 5,200 รอบต่อนาที ส่วนระบบส่งกำลังมีให้เลือกได้ทั้งแบบธรรมดา 6 จังหวะ และอัตโนมัติ 7 จังหวะ

โดยนิสสัน แฟร์เลดี้ 370Z โฉมใหม่คันนี้ อีตั้น ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 5,090,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสตัวจริงของนิสสัน แฟร์เลดี้ 370Z ได้ที่โชว์รูม อีตั้น ทุกสาขา










ยลโฉม “ไทรทัน” ใหม่ ทั้งเมกะแค็บ-ซิงเกิ้ลแค็บ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 ธันวาคม 2551 12:28 น.
มิ ตซูบิชิ ไทรทัน เปิดตัวได้อย่างฮือฮาพอสมควร เมื่อ 3 ปีก่อน จนได้รับรางวัลยอดเยี่ยมหลายรางวัล ล่าสุด มิตซูบิชิ จัดการปรับโฉมไทรทัน อีกครั้ง ทั้งเมกะแค็บและซิงเกิ้ลแค็บ สมรรถนะ รูปร่างหน้าตา และราคาเป็นอย่างไร เชิญติดตาม...

• มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ

ภายนอก ...
มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ โฉมใหม่ ปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูแข็งแกร่งขึ้นกว่าจากหน้าจรดท้ายด้วยกระจังหน้าดี ไซน์ใหม่แบบโครเมียม เพิ่มปริมาตรการบรรทุกด้วยกระบะท้ายออกแบบใหม่สูงขึ้นกว่าเดิม 57 มิลลิเมตร กันชนหน้าหลังดีไซน์ใหม่ ดูแข็งแกร่ง บึกบึน กว่าเดิม ไฟเลี้ยวสีขาวสไตล์สปอร์ต ไฟตัดหมอกหน้าดีไซน์ใหม่(ยกเว้นรุ่น Mega Cab 2.5 GLX) เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน พร้อมบันไดข้างอะลูมิเนียม เพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลง




ภายใน…
มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ โฉมใหม่ ตกแต่งภายในสไตล์สีเงิน “ซิลเวอร์ เดคอร์เรชั่น” คอนโซลกลางและคอนโซลเกียร์ตกแต่งสีเงิน พร้อมเบาะผ้าทูโทนทรงสปอร์ต โดยในรุ่นพลัสขับเคลื่อน 2 ล้อ จะมาพร้อมเครื่องเล่นซีดี/ดีวีดี เอ็มพี3 Div X พร้อมช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง จอมอนิเตอร์ WIDE SCREEN ขนาด 7 นิ้ว แบบ Built-in พร้อมรีโมท(ยกเว้นรุ่น Mega Cab 2.5 GLX) ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมาพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ RV Meter ( Recreation Meter) แสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่และข้อมูลสภาพแวดล้อมรอบรถโดยผ่านจอ LCD ที่ติดตั้งในส่วนกลางของคอนโซล พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ช่องเก็บของที่ประตูคู่หน้าพร้อมช่องใส่ขวดน้ำและไฟส่องสว่าง และที่วางของเอนกประสงค์บริเวณคอนโซลหน้า

แผงคอนโซล มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส ใหม่
สมรรถนะ..
มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ โฉมใหม่ ได้พละกำลังและสมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร. DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 V เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวินอินเทค แมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 321 นิวตัน/เมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที พร้อมรองรับน้ำมันไบโอดีเซล B5 ระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ช่วงล่างหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนพร้อมโช้คอัพไขว้ รัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุด 5.9 เมตร โดยในรุ่นพลัสจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ มี 2 สไตล์ให้เลือก คือระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมโอเวอร์ไดรฟ์ และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะเป็นเป็นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Easy Select 4WD และ Shift-On-The Fly สามารถปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนตามสภาพถนน โดยสามารถปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนระหว่างโหมด 2H และ 4H ได้ที่ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความปลอดภัย..
มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะแค็บ โฉมใหม่ ใช้ตัวถังนิรภัย RISE Body ซึ่งถูกดีไซน์เพื่อลดการยุบตัวของห้องโดยสารทำให้ห้องโดยสารเสียหายจากการชน น้อยที่สุดเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้าและหลัง พร้อมเสริมคานกันกระแทกด้านข้างในประตูรถทุกบานลดการยุบตัวของประตูเมื่อ เกิดการชนจากด้านข้าง เพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถด้วยระบบเบรก ABS พร้อมระบบการกระจายแรงเบรกแบบ EBD(ยกเว้นรุ่น Mega Cab 2.5 GLX) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ(ยกเว้นรุ่น Mega Cab 2.5 GLX) และเข็มขัดนิรภัยดึงกลับอัตโนมัติ(ยกเว้นรุ่น Mega Cab 2.5 GLX) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนี่ยนมาพร้อมพาวเวอร์ ระบบเบรกคู่หน้าแบบดิสก์เบรกมีช่องระบายความร้อนพร้อมดรัมเบรกในล้อคู่หลัง พร้อมเซ็นทรัลล็อก กุญแจรีโมท(ยกเว้นรุ่น Mega Cab 2.5 GLX) ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม(ยกเว้นรุ่น Mega Cab 2.5 GLX) และกระจกไฟฟ้าพร้อมระบบSafety (ยกเว้นรุ่น Mega Cab 2.5 GLX)

มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส ขับเคลื่อน 2 ล้อ
• มิตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ.

การออกแบบ ...
มิตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ออกแบบเฉพาะเพื่องานบรรทุกหนักทั้งคัน มาพร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ แข็งแกร่ง บึกบึน ไฟเลี้ยวสีขาวสไตล์สปอร์ต แผงเหล็กกั้นขนาดใหญ่ช่วยป้องกันห้องโดยสารเมื่อมีการบรรทุกสินค้า คอนโซลหน้าโค้งเข้ารูป แผงหน้าปัดสปอร์ต เครื่องเล่นวิทยุซีดี เอ็มพี3 พร้อมช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงและรีโมท

สมรรถนะ...
มิ ตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ลแค็บ โฉมใหม่ มาพร้อมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวินอินเทค แมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 247 นิวตัน/เมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ให้การประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม

มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส ขับเคลื่อน 2 ล้อ โฉมใหม่
ความปลอดภัย...
มิตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ลแค็บ โฉมใหม่ ใช้ตัวถังนิรภัย RISE Body ซึ่งถูกดีไซน์เพื่อลดการยุบตัวของห้องโดยสารทำให้ห้องโดยสารเสียหายจากการชน น้อยที่สุดเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้าและหลัง พร้อมเสริมคานกันกระแทกด้านข้างในประตูรถทุกบานลดการยุบตัวของประตูเมื่อ เกิดการชนจากด้านข้าง ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนี่ยนพร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง ระบบเบรกคู่หน้าแบบดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนพร้อมดรัมเบรกในล้อคู่ หลัง โครงสร้างแชสซีส์ชิ้นเดียวแบบขึ้นรูปประกบ 2 ชิ้นไร้รอยต่อตลอดความยาวป้องการโค้งงอและการบิดตัวได้ดีกว่า พร้อมระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น คอยส์สปริง พร้อมสตรัทบาร์ และด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนพร้อมโช้คอัพไขว้ รองรับการบรรทุกหนัก พร้อมแผงเหล็กกั้นขนาดใหญ่ช่วยป้องกันห้องโดยสารเมื่อมีการบรรทุกสินค้า ขอเกี่ยวขอบกระบะด้านข้างและหลัง(เฉพาะรุ่นมีขอเกี่ยวกระบะ)ช่วยยึดและเพิ่ม ความปลอดภัยในการบรรทุก พร้อมรัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 5.7 เมตร

แผงคอนโซล มิตซูบิชิ ไทรทัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัย ETACS (ELECTRONIC TIME AND ALARM CONTROL SYSTEM) รายแรกของรถกระบะในเมืองไทย

1. ระบบตัดการทำงานไฟใหญ่หน้าอัตโนมัติเมื่อปิดสวิทซ์กุญแจ ภายในเวลา 3 นาที และดับทันทีเมื่อเปิดประตูรถ
2. สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท สัญญาณเสียงและไฟกระพริบจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูปิดไม่ สนิทที่ความเร็วเกิน 8 กม./ ชม.
3. ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับเปิดที่ปัดน้ำฝนตำแหน่งปัดหยุด เมื่อใช้ความเร็วที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 อัตโนมัติ และจะเปลี่ยนกลับมาที่ตำแหน่งปัดหยุดเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
4. สัญญาณเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้า หากผู้ขับลืมปิดไฟหรี่หน้าหลังจากดับเครื่องยนต์และเปิดประตู
5. ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสาร (15 วินาที) เมื่อเปิดประตูหรือดับเครื่องยนต์แล้วดึงกุญแจออก ไฟเก๋งในห้องโดยสารจะสว่างขึ้นถึงแม้จะปิดประตูแล้วเพื่อช่วยในการมองเห็น สิ่งของภายใน และจะดับลงเมื่อผู้โดยสารสตาร์ทรถ หรือล็อกรถจากภายนอก
6. ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้า หลังจากการดับเครื่องยนต์ในรถกระจกไฟฟ้าจะยังสามารถเปิดปิดได้ต่อไปอีกเป็น ระยะเวลา 30 วินาที หลังดับเครื่องยนต์ (เฉพาะรุ่น Plus Mega Cab และ 4x4 Mega cab)
7. ระบบเซ็นทรัลล็อก ควบคุมการเปิด-ปิดล็อกประตูทุกบานจากด้านคนขับ(เฉพาะรุ่น Plus Mega Cab และ 4x4 Mega cab)
8. ระบบปลดล็อกด้วยรีโมท สามารถล็อกและปลดล็อกประตูทุกบาน รวมถึงการล็อกประตูอัตโนมัติ และหากไม่มีการเปิดประตูภายใน 30 วินาที หลังจากการกดปุ่มปลดล็อกจากรีโมทที่กุญแจ ระบบจะล็อกให้เองเพื่อป้องกันการกดล็อกผิด (เฉพาะรุ่น Plus Mega Cab และ 4x4 Mega cab)

มิตซูบิชิ ไทรทัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ
มิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ มีทั้งหมด 6 รุ่น พร้อม 6 สีให้เลือก คือ สีดำ สีบรอนซ์ทอง สีบรอนซ์เงิน สีเทาดำ สีฟ้า และสีขาว (เฉพาะรุ่น Single) Cab) โดยตั้งราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 470,000 บาท

1. มิตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ลแค็บ 2.5 GL เกียร์ธรรมดา ราคา 470,000 บาท
2. มิตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ลแค็บ 2.5 GL เกียร์ธรรมดา ราคา 473,000 บาท (รุ่นมีขอเกี่ยวกระบะ)
3. มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส 2.5GLX เกียร์ธรรมดา ราคา 605,000 บาท
4. มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส 2.5 GLS เกียร์ธรรมดา ราคา 654,000 บาท
5. มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส 2.5 GLS เกียร์อัตโนมัติ ราคา 684,000 บาท
6. มิตซูบิชิ ไทรทัน 4WD 2.5 GLS เกียร์ธรรมดา ราคา 673,000 บาท



มิตซูบิชิ ไทรทัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ

"มอเตอร์เอ๊กซ์โป"รถใหม่พร้อมขาย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤศจิกายน 2551 13:45 น.
งานมหกรรม ยานยนต์ครั้งที่ 25 หรือ “มอเตอร์เอ็กซ์โป 2008” ไฮไลต์สำคัญนอกจากจะเป็นพวกรถต้นแบบ ที่หลายค่ายต่างขนกันมาอวดโฉมแล้ว ในส่วนของรถใหม่พร้อมขายยังมีมาให้เลือกมากมาย ไล่ตั้งแต่รถหรู-สปอร์ตราคาแพงระยับ ลงมาถึงเก๋งบ้าน และปิกอัพที่กระตุ้นตลาดด้วยรุ่นพิเศษเอาใจคนชอบต่าง รวมถึงพวกรถอเนกประสงค์ราคาประหยัดจากจีน ก็ใช้เวทีนี้เปิดตัวกับสาธารณะชนอย่างเป็นทางการเช่นกัน

บิตซ์ซาร์รีนี พี 538
สปอร์ต-หรู โฉบเฉี่ยวตื่นตา

เริ่มกับตลาดที่อยู่นอกเหนือสภาวะเศรษฐกิจ โดยไฮไลต์ที่ผู้จัดงานภูมิใจเสนอ และใครที่ไม่หวังซื้อแต่ก็มิควรพลาดเดินไปชมนั่นคือ “บิตซ์ซาร์รีนี”(BIZZARRINI) ซูเปอร์คาร์ สัญชาติอีตาเลียนที่เคยโด่งดังในอดีต มาคราวนี้ในเวอร์ชัน พี 538 ที่ออกแบบโดยฝีมือคนไทย โดยอภิชาต ภูมิสุข อาจารย์พิเศษ วิชาออกแบบรถยนต์ ภาควิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับกลุ่มนักศึกษาจากภาควิชาฯ อีก 3 คน กับตัวถังโรดสเตอร์สุดเท่ที่ยังคงกลิ่นไอรุ่นเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น พร้อมขุมพลังเบนซิน วี 8 ซึ่งกำลังแรงม้าและราคายังไม่เปิดเผย แต่ที่แน่ๆรถรุ่นนี้จะผลิตออกมาขายเพียง 100 คันเท่านั้น

ออดี้ เอ4
ถัดมาเป็นรถหรูเมืองเบียร์ “ออดี้” ที่งานนี้ไม่น้อยหน้า ส่งรถใหม่มาถึง 3 รุ่น ตั้งแต่การไมเนอร์เชนจ์ของเอสยูวี คิว7 และเก๋งกลาง เอ6 รวมถึงน้องเล็ก เอ4 โมเดลเชนจ์ กับเครื่องยนต์ 1.8 TFSI 160 แรงม้า สนนราคา 2.89 ล้านบาท ขณะที่สหายกระเป๋าเดียวกัน(ในไทย) อย่างเอ็มทีเอ็ม เตรียมส่งตัวแรง ออดี้ อาร์เอส4 4.2FSI ซูเปอร์ชาร์จ 500 แรงม้า มายั่วน้ำลายไฮโซเท้าหนักเช่นกัน

ด้านวอลโว่ มากับรถยนต์ FlexiFuel รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อย่าง S80 2.5 FT รุ่นประกอบในประเทศเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรเทอร์โบชาร์จแบบ 5 สูบ 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที ราคา 3.1 ล้านบาท รวมถึงเจ้าตัวเล็ก C30 1.8 F ที่เป็นรถนำเข้าทั้งคัน ราคา 1.899 ล้านบาท ส่วนอดีตเพื่อนร่วมหลังคา(ฟอร์ด)เดียวกันอย่างแลนด์โรเวอร์ ที่ในไทยเพิ่งปรับโครงสร้างใหม่ โดย Guava International Limited เข้ามาดูแลตลาด และงานนี้เตรียมลุยกับรุ่น “ฟรีแลนเดอร์2” คอมแพกต์เอสยูวี ขุมพลังดีเซล ทีดี4 ขนาด 2.2 ลิตร พร้อมด้วยออฟโรดรุ่นเก๋า “ดีเฟนเดอร์ 2”

แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอส
สำหรับขาประจำ“เอสอีซี” ที่ปีนี้นำรถหรูกว่า 40 คัน 25 รุ่นเข้าร่วมงาน แต่ไฮไลต์คงต้องยกให้ “แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอส” พาหนะคู่กายสายลับ 007 และถือเป็นผลผลิตล่าสุดจากตระกูลดีบี9 ที่มากับรูปลักษณ์อันโดดเด่นและรายละเอียดทางวิศวกรรม โดยการพัฒนามีขึ้นบนพื้นตัวถังรุ่น VH เช่นเดียวกับดีบี9 โครงสร้างตัวถังคูเป้ผลิตจากอะลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมเครื่องยนต์ 6.0 ลิตร วี12 517 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 302 กม./ชม.

ฟอร์ด โฟกัส
เก๋งบ้าน…เกือบใหม่

ชิงเปิดตัวโหมกระแสกับสื่อมวลชนไปก่อนจะเข้างานจริง สำหรับรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของฟอร์ด โฟกัส และ
ฮอนด้า ซีวิค โดยค่ายแรกประเดิมเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ที่ประกบมากับเกียร์พาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด แบบดูอัลคลัทซ์ สนนราคา 1.099 ล้านบาท จากนั้นในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป จะเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 และ 2.0 ลิตร ทั้งตัวถังซีดานและแฮทซ์แบ็ก 5 ประตู พร้อมเคาะราคาอย่างเป็นทางการ โดยจะพร้อมส่งมอบได้ต้นปีหน้า

ขณะที่ “ซีวิค” มีการปรับโฉมเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าคมเข้มแบบ Smoked Chrome ไฟท้ายทรงแปดเหลี่ยม พร้อมเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ เครื่องเล่นดีวีดี รวมถึงเนวิเกเตอร์แบบทัชสกรีน เครื่องยนต์บล็อกเดิม i-VTEC 1.8 ลิตร 140 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 155 แรงม้า ไม่มีการปรับจูน สนนราคา 7.49 แสนบาท ถึง 1.101 ล้านบาท

ค่ายรถมาเลเซีย “โปรตอน” โดยพระนครโอโตเซลส์ ยังร้อนแรงไม่หยุด ทั้งยอดขายและการเสริมไลน์โปรดักต์เพราะหลังเปิดตัว เพอร์โซนา ซีเอ็นจี ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเพิ่มทางเลือกในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินใช้น้ำมันอย่างเดียว กับราคาเริ่มต้น 4.99 แสนบาท

โดยเพอร์โซนา มากับออปชันเพียบ อาทิ ไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยด์ลายใหม่พร้อมยางขนาด 195/60 R15 ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD วางเครื่องยนต์ขนาด 1600 ซีซี 110 ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ พร้อมรอบรับน้ำมันแก็สโซฮอล์ อี20

โปรตอน เพอร์โซนา
นอกจากนี้บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์ คาร์ส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เปอโยต์ อย่างเป็นทางการ โดย “พลกฤษณ์ ลีนุตพงษ์” พยามปั้นยอดขายด้วยการนำเข้าโปรดักต์ราคาประหยัดอย่างรุ่น 206 ซับ-คอมแพกต์ที่นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งรู้กันว่ารถยนต์รุ่นนี้ถูกปลดระวางจากบริษัทแม่ประเทศฝรั่งเศสไปแล้ว และอัพขึ้นไปเป็นรุ่น 207

สำหรับ 206 มากับเครื่องยนต์เบนซิน รหัส TU 3 JP ขนาด 1,400 ซีซี 75 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ที่ปรับเล่นเป็นเกียร์ธรรมดาได้ ด้านความปลอดภัยประกอบด้วย ถุงลมนิรภัยพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อนและดรัมเบรกหลัง เสริมด้วย ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน EBA ราคาเริ่มต้น 7.59 แสนบาท

เปอโยต์ 308
อย่างไรก็ตามถ้าหันกลับไปมอง “กลุ่มยนตรกิจ” (บ้านเดิมของเปอโยต์) หลังปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ แบ่งสันปันส่วนชัดเจนก็เริ่มลุยตลาดอย่างเป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้ง ซึ่งนอกจาก 7 แบรนด์ที่มีอยู่ในมือ(ออดี้ ซีตรอง เกีย นาซ่า สโกด้า เซียท มิตซึโอกะ)แล้ว “เสี่ยเชียร” วิเชียร ลีนุตพงษ์ ยังเพิ่มอาวุธด้วยแบรนด์ดังจากจีนอย่าง “จีลี่”

ในงานมอเตอร์โชว์ ยนตรกิจจะนำจีลี่ รุ่น “ซีเค” มาอวดโฉม เพื่อวัดการตอบรับ แล้วถ้าผลออกมาดี จะเตรียมนำเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ทั้งนี้ “ซีเค” เป็นเก๋งซับคอมแพกต์ ระดับเดียวกับ วีออส-ซิตี้ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร คาดราคาขายอยู่ประมาณ 4 แสนบาท

จีลี่ ซีเค
ปิกอัพ-อเนกประสงค์...หลากทางเลือก

ต้องยอมรับว่านี่ไม่ใช่ปีของปิกอัพ เพราะล่าสุดยอดขาย 10 เดือนตลาดยังตกถึง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และแม้ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา 2 ค่ายยักษ์ โตโยต้า-อีซูซุ จะทุ่มตลาดอย่างหนัก ทั้งโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ออกอีเวนท์ทั่วประเทศ โดยค่ายแรกมีอาวุธเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ทั้งยังเสริม ตัวถังแค็บเปิดได้แบบตู้กับข้าว ส่วนค่ายหลังมี “ก็อต จักรพรรณ” และ ดีแมคซ์ แพลตินั่ม

ขณะที่เบอร์ 3 ตลาดปิกอัพเมืองไทย “นิสสัน” พยายามปิดช่องว่าง ฟรอนเทียร์ นาวารา ด้วยการเสริมรุ่น “คาลิเบอร์” ปิกอัพขับสองยกสูงตามสมัยนิยม ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ได้ยกสูงอะไรมากมาย(เพราะเดิมสูงอยู่แล้ว) หากแต่เป็นยกรูปลักษณ์ของรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมาไว้ในรุ่นนี้ ทั้ง โป่งล้อโตๆ บันไดข้างสไตล์ออฟโรด กันชนหลัง และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ประกบยางขนาด 255/70R16

ขุมพลัง D25DDTi คอมมอนเรลไดเร็กอินเจ็กชั่น 2.5 ลิตร 144 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 356 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด(เท่านั้น) โดยรุ่นคิงส์แค็บ(เปิดได้แบบตู้กับข้าว)ราคา 6.39 แสนบาท และดับเบิ้ลแค็บ ราคา 7.15 แสนบาท

นาวารา คาลิเบอร์
ส่วนพระรองอย่าง “มิตซูบิชิ” มีการขยับเช่นกัน กับไทรทัน พลัส ตัวถังเมกะแค็บ ที่เปลี่ยนกระจังหน้าใหม่(คล้ายปาเจโร) พร้อมยกสูงขึ้นอีก 57 มิลลิเมตร ส่วนมาสด้านั้นจัดการเปิดตัว “บีที-50 สปอร์ต ซีรี่ส์” ลิมิเต็ตอิดิชั่น โดยรุ่นดับเบิลแค็บจะผลิตเพียง 10 คัน และรุ่นแค็บเปิด 100 คัน


บีที-50 สปอร์ต ซีรี่ส์
ด้านปิกอัพ “ทาทา” ที่ช่วงหลังแม้จะเงียบไปบ้าง แต่สำหรับงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้ ค่ายรถอินเดียส่ง “ซีนอน ซูเปอร์ ซีเอ็นจี” ปิกอัพที่วิ่งด้วยก๊าซ ธรรมชาติล้วนๆไม่พึ่งพา(ถัง)น้ำมันแม้แต่หยดเดียว ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลกอีกด้วย

สำหรับซีนอน ซูเปอร์ ซีเอ็นจี มากับรุ่นเอ็กซ์เท็นด์แค็บ เครื่องยนต์ 2.1 ลิตร DOHC หัวฉีดมัลติพอยต์ 115 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่ 3,750 รอบ/นาที โดยระบบซีเอ็นจีใช้วัสดุอุปกรณ์คุณภาพสูง อาทิ ระบบท่อก๊าซของ Sandvik เยอรมัน และ Swagelok สหรัฐอเมริกา วาล์วนิรภัยของ OMB อิตาลี ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการรั่วซึม แรงดัน และอุณหภูมิ ส่วนระบบประมวลผลอัจฉริยะคำนวณการผสมผสานก๊าซ อากาศ สภาพการขับขี่ ใช้ของ Bosch เยอรมัน และเซ็นเซอร์ของ Valeo ฝรั่งเศส โดยทั้งหลายทั้งปวงแลกกับราคา 5.19 แสนบาท

ซีนอน ซูเปอร์ ซีเอ็นจี
ด้านยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” จัดการแต่งเท่ให้ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ด้วยรุ่น 3.0V TRD Sportivo โดดเด่นกับสีขาวมุข ชุดแต่งสเกิร์ตรอบคัน บันไดข้างอลูมิเนียม ท่อไอเสียสแตนเลส โช้คอัพและคอยล์สปริง TRD ขณะที่ความสูงตัวรถจะลดลงประมาณ 25 ม.ม. ภายในสีทูโทนดำ-ครีม และคอนโซลกลาง พวงมาลัย แผงควบคุมกระจกไฟฟ้า แผงครอบคอนโซลเกียร์ ลายสปอร์ตเคฟลาร์ เครื่องเสียงอัลไพน์แบบ 2Din

ขณะเดียวกันโตโยต้ายังใช้เวทีนี้เปิดตัว รถตู้หรูรุ่น “อัลพาร์ด” โดยเป็นการนำเข้าและจัดจำหน่าย(เอง)อย่างเป็นทางการ มีให้เลือก 2 รุ่น 3.5V และ 3.5Q (หลังคามูนรูฟ) เครื่องยนต์เบนซิน V6 3,500 ซีซี Dual VVT-i 275 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ Sequential shift 6 สปีด เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์พิเศษสำหรับเมืองไทย อาทิ สเกิร์ตรอบคัน เบาะนวดไฟฟ้า ระบบ entertainment เต็มรูปแบบ กล้องมองหลังขณะถอย ราคาประมาณ4.1-4.4 ล้านบาท

Fortuner TRD Sportivo
ที่ขาดไม่ได้เห็นจะเป็นรถยนต์น้องใหม่จากจีนนำโดย DFM ภายใต้การทำตลาดของกลุ่ม “ยูเนี่ยนแสงทอง” ที่เรียงหน้าโปรดักต์กับ ปิกอัพขนาดเล็ก รวมถึงรถตู้เล็ก 7 ที่นั่ง และแบบตู้ทึบใช้งาน ซึ่งทั้ง 3 รุ่นใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.1 ลิตร 52 แรงม้า และ 1.3 ลิตร 82 แรงม้า พร้อมติดตั้งระบบซีเอนจี มาตรฐานโรงงานฟรี สนนราคาตั้งแต่ 2.79-4.39 แสนบาท

รถตู DFM
นอกจากนี้ยังมี “โพลาร์ซัน” รถจีนอีกยี่ห้อที่ยนตรกิจนำเข้ามาทำตลาด ประเดิมกับ“เซ็นทูรี ซีรี่” รถตู้อเนกประสงค์ ในราคาเริ่มต้น5.99 แสนบาท หรือใครต้องการความเหนือชั้นกว่า ต้องนี่ “ซีตรอง จัมเปอร์” รถตู้ระดับหรู เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 และ 3.0 ลิตร ขณะที่ตัวถังมีทั้งฐานล้อยาว-หลังคาสูง ราคา 1.59-2.49 ล้านบาท

โพลาร์ซัน เซ็นทูรี ซีรี่
ปิดท้ายด้วยซูบารุ ที่นำ “เอ็กซิก้า” (Exiga) รถสแตชันแวกอน ที่สั่งตรงสดๆร้อนๆมาจากญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยความอเนกประสงค์กับ เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง หลังคาแบบพาโนรามิคโปร่งใส เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบนอน 2,000 ซีซี เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ 218 แรงม้า ทั้งนี้ยังแว่วๆมาว่าค่ายรถดาวลูกไก่ ยังนำอิมเพรสซ่า ตัวถังซีดาน มาเปิดตัวพร้อมขายอีกด้วย

ซูบารุ เอ็กซิก้า
....ถึงบรรทัด นี้ ตัวหนังสือคงไม่สามารถอธิบายสรรพคุณของรถยนต์แต่ละคันได้หมด ดังนั้นควรไปไปสัมผัส-ลองขับคันจริงด้วยตนเอง ซึ่งงาน“มอเตอร์เอ็กซ์โป” ถือเป็นตลาดนัดสำคัญที่คุณจะได้เห็น ได้เลือกครบทุกรุ่นในที่เดียว แล้วถ้าพอใจคันไหนก็เชิญจับจองกันตามสะดวก

ผู้ติดตาม