อยากดูรถรุ่นอะไรเลือกดูได้เลยนะ

-------------------------------------- ค้นหาตามยี่ห้อรถ -------------------------------------
TOYOTAVOLVOTHAI RUNGSUZUKISUBARU SSANGYONGSKODASEATSAABROVERROLLSROYCEVOLKSWAGENRENAULT PORSCHEPEUGEOTOPELNISSANMITSUBISHIMERCEDES-BENZMAZDAMASERATILOTUSLINCOLNLEXUSLAND ROVERLAMBORGHINI CITROENDAIHATSUFERRARIKIAJEEPJAGUARISUZUHYUNDAIHONDAHINOFORDFIATDAEWOO CHRYSLERCHEVROLETBMWBENTLEYAUSTIN MINIAUDIALFA ROMEOACURA

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Honda S2000 Ultimate Edition ทิ้งทวนก่อนปิดไลน์ผลิต

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กุมภาพันธ์ 2552 11:01 น.
ในที่สุดไลพ์อัพในตลาดรถสปอร์ตของ ฮอนด้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อเอส2000 กำลังจะนับถอยหลังสู่วาระสูญพันธุ์เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับอินเทกรา และเอ็นเอสเอ็กซ์ โดยทางฮอนด้าประกาศแล้วว่าจะยุบไลน์ผลิตของสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นนี้ในเดือน มิถุนายน 2009


แต่ก่อนที่จะถึงตอนนั้น ฮอนด้าเอาใจลูกค้าในยุโรปเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเวอร์ชัน Ultimate Edition ซึ่งถือเป็นรุ่นสุดท้ายของ S2000 ก่อนยุติการผลิต โดยการเปิดตัวจะมีขึ้นในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2009 ระหว่างวันที่ 5-15 มีนาคมนี้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เอส2000 เป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนแบบ 2 ที่นั่งขับเคลื่อนล้อหลังที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนๆ ของฮอนด้าทั่วโลกได้ไม่น้อย โดยเป็นโปรเจ็กต์ที่สานต่อมาจากต้นแบบรุ่น SSM ที่เปิดตัวในปี 1996 จนกลายมาเป็นคันจริงสำหรับทำตลาดที่เปิดตัวในเดือนเมษายน 1999 ในวาระเดียวกับการฉลองครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งบริษัท


ที่สำคัญนี่คือรถสปอร์ตแบบขับเคลื่อน ล้อหลังของฮอนด้ารุ่นแรกนับจากการเปิดตัวเอ็นเอสเอ็กซ์ในปี 1992 แถมยังแรงและเร้าใจด้วยเครื่องยนต์บล็อกใหม่เอี่ยมรหัส F20C แบบ 4 สูบ 2,000 ซีซีแบบหายใจเอง หรือ NA ที่สามารถรีดกำลังออกมาได้มากถึง 240 แรงม้า หรืออยู่ในระดับ 120 แรงม้าต่อลิตร จนทำให้คว้ารางวัลในการประกวดเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมในอังกฤษได้หลายครั้ง


ประเด็นหลักของตัวรถที่เป็นเวอร์ชันสุด ท้ายจะมาพร้อมกับสีตัวถังแบบเดียว คือ ขาว Grand Prix White โทนสีเดียวกับที่ฮอนด้าเคยใช้ในรถแข่ง F1 คันแรกของตัวเองที่เข้าร่วมการแข่งขันกรังด์ปรีซ์สนามแรกในปี 1964 พร้อมกับการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในเพื่อให้เกิดความพิเศษ เช่น โลโก้ S2000 แบบรมดำ การตกแต่งในห้องโดยสารเน้นโทนสีแดงทั้งเบาะนั่ง พรม และแผงข้างประตู โดยที่กาบบันไดจะมีเพลทโลหะ ซึ่งมีการระบุคันที่ผลิตจากจำนวนที่ผลิตทั้งหมด แต่ฮอนด้าไม่ได้เปิดเผยว่าเวอร์ชันนี้จะมีการผลิตออกมาขายกี่คัน


เอส2000 เวอร์ชันที่ขายในยุโรปจะแตกต่างจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นซึ่งมีการเปลี่ยน ไปใช้เครื่องยนต์ 2,200 ซีซี แต่ที่นี่ยังเป็นแบบ 2,000 ซีซีเหมือนกับเวอร์ชันแรก มีกำลังสูงสุด 240 แรงม้า ที่ 8,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 21.1 กก.-ม. ที่ 7,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ


การทำตลาดจะมีขึ้นในยุโรปช่วงปลายเดือน มีนาคมนี้ และยังไม่มีการเปิดเผยราคาออกมา โดยตลอด 10 ปีของการทำตลาด เอส2000 มียอดขายรวมทั่วโลก 110,673 คัน ซึ่งจำนวน 19,987 คันถูกขายให้กับลูกค้าในยุโรป

“บี-คลาส ใหม่”ไฮเทค-อเนกประสงค์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กุมภาพันธ์ 2552 13:50 น.
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ส่ง The new generation B 180 CDI Sports Tourer ลุยตลาดรถหรู ชูความอเนกประสงค์พร้อมเทคโนดลยความปลอดภัยเพียบ กับราคา 2.79 ล้านบาท

รูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยวปราดเปรียว ตัวรถกะทัดรัดเหมือนคอมแพ็คคาร์ให้ความคล่องตัวสูงเหมาะกับการขับขี่ในเมือง ขณะที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเหมือนรถเอสเตทและมีพื้นที่ใช้สอยหลาก หลายเหมือนรถอเนกประสงค์

บีคลาส-ใหม่ เสริมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก-ปลอดภัย โดยจุดเด่นอยู่ที่ระบบ Hill Start Assist จะช่วยไม่ให้รถเลื่อนถอยหลังเมื่อคนขับถอนเท้าออกจากแป้นเบรกไปยังคันเร่ง ขณะขับขี่บนทางลาดชัน

นอกจากนี้ยังมี Active Parking Assist ระบบช่วยในการนำรถเข้าจอด โดยเซ็นเซอร์ที่ฝังอยู่ตามแนวด้านข้างซ้ายและขวารถจะสแกนหาพื้นที่ว่าง พร้อมกับวัดระยะความยาวและความลึกของบริเวณที่จะสามารถจอดได้ ระบบจะส่งสัญญาณให้กับคนขับ เพื่อให้ผู้ขับเข้าเกียร์ถอยหลัง ยืนยันการจอด และเหยียบคันเร่ง จากนั้นระบบจะช่วยในการนำรถเข้าจอดขนานไปกับถนนได้โดยอัตโนมัติ

ด้านเครื่องยนต์ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ประหยัดน้ำมันได้เพิ่มขึ้นถึง 7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม โดยขุมพลังดีเซล 4 สูบ 1,992 ซีซี 109 แรงม้าแรงบิด 250 นิวตันเมตร ต่อ 1,600 -2,600 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม. ภายใน 11.8 วินาที ความเร็วสูงสุด178 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 5.6-6.0 ลิตร ต่อ100 กิโลเมตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 148-158 กรัมต่อกิโลเมตร

B 180 CDI Sports Tourer สนนราคา 2,799,000 บาท โดยผู้สนใจติดต่อได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Mazda 3 MPS ตัวแรง-เซฟน้ำมัน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2552 13:14 น.
ทิ้ง ระยะจากการเปิดตัวของเวอร์ชันธรรมดาทั้งตัวถังซีดาน และแฮทช์แบ็ก 5 ประตูได้ไม่นาน ทางด้านมาสด้าจัดการยั่วน้ำลายแฟนๆ ทั่วโลกด้วยเวอร์ชันตัวแรงในรหัส MPS หรือ Mazda Performance Series ที่พัฒนาบนพื้นฐานของ 3 ใหม่ออกมาแล้ว


รายละเอียดยังไม่มีการเปิดเผยออกมามากนัก นอกจากเครื่องยนต์ซึ่งจะยังแรงและเร้าใจด้วยการพึ่งเทอร์โบเหมือนเดิมเป็น แบบ 4 สูบ 2,300 ซีซี DISI หรือ Direct Injection Spark Ignition แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะมีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมซึ่งอยู่ที่ 263 แรงม้ามากน้อยแค่ไหน รวมถึงระบบขับเคลื่อนจะยังเป็นแบบล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเหมือนเดิมหรือไม่

3 MPS หรือที่ขายในญี่ปุ่นด้วยชื่อ Mazdaspeed Axela และเปลี่ยนมาเป็น Mazdaspeed 3 สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา เป็นเวอร์ชันตัวแรงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อเทียบชั้นกับรหัสร้อนของพวก Hot Hatch ในยุโรป เช่น โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ R32 หรือฟอร์ด โฟกัส RS

การเปิดตัวของรุ่นนี้จะมีขึ้นที่เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2009 เดือนมีนาคมนี้ พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ MZR 2.0 DISI ที่มี Idle-Stop ซึ่งจะดับเครื่องยนต์เมื่อจอดติดอยู่กับที่เหมือนกับรถยนต์ไฮบริดเพื่อลด อัตราการกินน้ำมัน ซึ่งเครื่องยนต์พร้อมระบบดังกล่าว เคยนำมาจัดแสดงในโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2007

อย่างไรก็ตามในรุ่นขายจริงจะมาในชื่อ i-Stop ซึ่งมาสด้าเคลมว่า มีความประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นจากเครื่องยนต์เดียวกันประมาณ 12%

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เปอโยต์เอาใจลูกค้าเปิดระบบPPS

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มกราคม 2552 11:55 น.
เปอโย ต์ ประเทศไทย โดยการบริหารงาน บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์ คาร์ส จำกัด และ บริษัท ยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ จำกัด บริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย รถยนต์เปอโยต์รายเดียวในประเทศไทย เปิดตัว PPS : Peugeot Planet System เทคโนโลยี ที่ได้รับการออกแบบเพื่อการวิเคราะห์และตรวจสอบการทำงานของรถยนต์เปอโยต์ได้ ทุกส่วนได้อย่างแม่นยำรวดเร็ว พร้อมระบบเชื่อมโยงการช่วยเหลือจากช่างผู้เชี่ยวชาญรถยนต์เปอโยต์ทั่วโลก โดย ระบบ PPS ถูกติดตั้งที่เปอโยต์บลูบ็อกซ์ เพื่อรองรับลูกค้าเปอโยต์ที่เข้าใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว เฉลี่ย 4 นาทีต่อคัน หรือ 15 คันต่อหนึ่งนาที

บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์ คาร์ส จำกัดและบริษัท ยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ จำกัด ในนามบริษัทผู้ดูแลแบรนด์รถยนต์เปอโยต์ในประเทศไทย หลังการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การบริหารงานเมื่อปี 2008 ที่ผ่านมา พร้อม ก้าววางรากฐานอย่างมั่นคง ผลักดันแบรนด์เปอโยต์ในปี 2009 ให้มีการเติบโต 100% ต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดย ประเดิม ปี 2009 ด้วยการเปิดตัวระบบ เทคโนโลยี ที่ถูกนำมาเพื่อพัฒนาการทำงานของการบริการหลังการขาย และการตรวจสอบคุณภาพของรถยนต์เปอโยต์ ที่ถูกนำมาใช้ทั่วโลกในชื่อระบบ “PPS: Peugeot Planet System”

พี พีเอส หรือ เปอโยต์ แพลนเน็ต ซีสเต็ม (PPS: Peugeot Planet System) เป็นระบบเทคโนโลยีที่ถูกสร้างสรรค์มาเฉพาะรถยนต์เปอโยต์เท่านั้น เพื่อนำมาช่วยวิเคราะห์และตรวจสอบ การทำงานทุกระบบของ รถยนต์เปอโยต์ โดยการทำงานของเทคโนโลยี “พีพีเอส” อาศัยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ต่อพ่วงกับอุปกรณ์เชื่อมต่อ OBD-II ที่ถูกติดตั้งซ่อนไว้ในรถยนต์เปอโยต์ พร้อมการเรียกใช้งานโปรแกรม “พีพีเอส” ระบบก็จะสามารถวิเคราะห์หาระบบในรถยนต์ที่เกิดปัญหาได้อย่างตรงจุดและรวด เร็ว โดยการทำงานของ “พีพีเอส” นั้น วิเคราะห์ข้อมูลผ่าน สายเคเบิ้ลที่ถูกเชื่อมโยงไว้ทุกจุดของรถยนต์เปอโยต์


การทำงานของพีพีเอสนั้นอาศัยการทำงานผ่านระบบปฎิบัติการ Windows Ex Pro พร้อมการลงโปรแกรม “พีพีเอส” ที่มาพร้อมกับระบบ Automatic centralized diagnostic software (Peugeot Planet Diag) ระบบการช่วยในการตรวจสอบสถานะการทำงานของระบบต่างๆ ในรถยนต์ ระบบ Parameterization and electronic configuration software (Peugeot Planet 2008) ระบบที่ใช้ในการวิเคราะห์และปรับแต่งระบบไฟฟ้า Interactive wiring diagram software ระบบการเชื่อมต่อบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต Infotec ระบบซอฟแวร์ที่ใช้วินิจฉัยข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และยังรวมไปถึงซอฟแวร์เพื่อการสื่อสารอื่นๆ ที่ถูกผนวกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ทุกๆ ระบบของรถยนต์อย่างรวดเร็วและชาญฉลาด

ใน ส่วนของฟังก์ชั่นการทำงานงานของระบบอัจฉริยะ ”พีพีเอส” นั้น ประกอบไปด้วย ระบบการแสดง ข้อมูลจำเพาะของรถยนต์ (Read Identifications) ที่สามารถแสดงถึงประวัติของรถยนต์ ตั้งแต่วันจำหน่าย การตรวจซ่อม หมายเลขการผลิต ฯลฯ อีกทั้งยังมีระบบการแสดงข้อบกพร่องของระบบการทำงานของรถยนต์ อย่างละเอียดทุกส่วนของรถยนต์ และระบบออโต้สแกนที่ตรวจจับ ECUs (Electronic Control Units) ที่ถูกเชื่อมโยงไว้ทุกส่วนของรถยนต์ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบระบบการทำงานของรถยนต์เปอโยต์ ตลอดจนยัง สามารถตรวจสอบและแสดงผลข้อมูลแบบ Real-time อาทิ ความเร็วของเครื่องยนต์พลังงานแบตเตอรี่ อุณหภูมิของ Coolant ฯลฯ ผ่านโปรแกรมการแสดงค่าวัด (Measure Values)

อีกทั้งในระบบพีพีเอสนี้ยังมีระบบโปรแกรมการทดสอบเชิงปฎิบัติการ (Actuator Test) ที่ถูกสร้างสรรค์ การเพื่อการทดสอบการปฎิบัติการเฉพาะส่วน เช่น ระบบการสูบน้ำมัน ระบบล้อ ระบบประตู ระบบตัดเชื้อเพลิง โดยทุกส่วนของรถยนต์ เมื่อมีการตรวจสอบและซ่อมบำรุงเรียบร้อยแล้ว ช่างผู้เชี่ยวชาญยังต้องใช้พีพีเอส เชื่อมต่อ กับรถยนต์เพื่อปรับตั้งค่าใหม่เพื่อความแม่นยำในตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การดูแลของศูนย์บลูบอกซ์ เปอโยต์

นาย พลกฤษณ์ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์ คาร์ส จำกัด และ บริษัท ยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ จำกัด กล่าวว่า ระบบพีพีเอส ถือเป็นระบบพื้นฐานที่สามารถพบได้ในเปอโยต์บลูบ็อกซ์ทั่วโลก ซึ่งถือว่า การเปิดตัวระบบนี้จะ สามารถทำให้ลูกค้าเปอโยต์ เพิ่มความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของศูนย์บริการเปอโยต์และ เกิดความสะดวกสบายในการรับบริการมากขึ้นเพราะการวิเคราะห์การทำงานของระบบรถ ยนต์แต่ละคันใช้เวลาเพียง 4 นาที หรือ 15 คันต่อหนึ่งนาที โดยรถยนต์ที่สามารถนำมาตรวจโดยระบบพีพีเอสนั้น ใช้ได้ตั้งแต่รถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี 1995 จนถึงปัจจุบัน

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

“เล็กซัส” เปิด “RX350” โฉมใหม่เอาใจเศรษฐี-ดารา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2552 14:19 น.
โตโยต้า เผยโฉม “เล็กซัส อาร์เอ็ก350” โฉมใหม่ล่าสุด เคาะราคา 5.55 ล้านบาท รับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ชูความหรูหราและประณีต เครื่องยนต์แรง เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเศรษฐีและดารารักครอบครัว พร้อมเผยอีกทางเลือก ในรุ่น450h แบบไฮบริด ที่จะมาอวดโฉมในช่วงมอเตอร์โชว์


วันนี้ (12 ก.พ.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย แนะนำรถยนต์เอนกประสงค์ระดับหรู “เลกซัส อาร์เอ็กซ์ (RX350) โฉมใหม่ล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 3 หลังจากเพิ่งเผยโฉมที่ญี่ปุ่นและอเมริกา เน้นเจาะกลุ่มลูกค้า ผู้บริหารระดับสูง, ผู้ที่มีอาชีพเฉพาะทางเช่น ดารา แพทย์ และเจ้าของกิจการ ที่ชอบใช้เวลากับครอบครัว

สำหรับ อาร์เอ็กซ์ 350 ได้รับการปรับโฉมใหม่หมด ภายใต้ปรัชญา “Yet Philosophy” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางแนวคิดของเลกซัสในการที่จะพัฒนาสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไป ได้มารวมไว้ด้วยกัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยคงเอกลักษณ์ดีไซน์แบบ L-Finesse และ I.D.E.A.L. เอาไว้ พร้อมการผลิตจากประสบการณ์ของช่างฝีมือชั้นครู(TAKUMI)

ซึ่งจุดเด่นของการดีไซน์แบบดีไซน์ L-Finesse เช่น ออกแบบโดยคำนึงถึงแสงสะท้อนบนตัวถังให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของแสงที่ตก มากระทบ ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูมีมิติมากขึ้น (Seamless Anticipation) และ ความหรูหราที่ซ่อนลึกถึงภายใน (Intriguing Elegance) เช่น การซ่อนที่ปัดน้ำฝนไว้ในสปอยเลอร์ การจัดวางปุ่มควบคุมใหม่ โดยแบ่งเป็นโซนแห่งมุมมอง และโซนแห่งการควบคุม อย่างชัดเจน

สำหรับ เครื่องยนต์ เป็นแบบ วี6 Dual VVT-i รหัส 2GR-FE ขนาดความจุ 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 275 แรงม้าที่ 6200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 346 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ ยูโร 4 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 ระดับ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All –wheel drive ที่มากับระบบ Active Torque Control ช่วยส่งแรงบิดไปยังล้อหน้าและล้อหลัง แปรผันตามความเร็วรถและสภาพพื้นผิวถนน

เสริมด้วยระบทันสมัยอีกมากมายเช่น ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) ช่วยออกแรงตาม หรือสวนทางของการหักพวงมาลัยเพื่อรักษาการทรงตัวของรถ ระบบการจัดการไดนามิคของตัวรถ VDIM (Vehicle Dynamic Integrated Management) ทำการควบคุมทั้งกำลังเครื่องยนต์ เบรกและพวงมาลัยให้สามารถทำงานกันได้อย่างสมดุลย์ ระบบไฟส่องสว่างแบบปรับมุมได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดทั้งผู้นั่งและผู้ขับ รวมถึงตำแหน่งของถุงลมนิรภัยที่มีถึง 10 จุด

ส่วนภายในเน้นความหรูหรา สะดวกสบาย วัสดุหุ้มด้วนหนังแท้เกรด พรีเมี่ยม จอแสดงผลเรืองแสงแบบใหม่ OLED (Organic Light-Emitting Diode) ช่วยในการอ่านค่าได้อย่างชัดเจน สบายตา เหนือกว่าจอแสดงผลแบบ LED ทั่วไป พร้อมระบบไฟส่องทางเวลาเดินเข้ารถ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและปลอดภัยกรณีจอดรถในที่มืด

เหนืออื่นใด นอกจากเผยโฉม เล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 350 แล้ว ทางโตโยต้า ยังเผยแผนที่จะนำเข้ารุ่น อาร์เอ็กซ์ 450เอช (450h) มาขายในเมืองไทย ซึ่งเป็นรถยนต์ในตระกูลไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ ช่วงเดือนมีนาคมนี้

โตโยต้า ประกาศ เคาะราคาค่าตัวของ “เล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 350” ไว้ที่ 5.55 ล้านบาท พร้อมแคมเปญพิเศษรับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ท่านที่สนใจสามารถเข้าชมได้ที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่ง หรือเข้าร่วมกิจกรรมโรดโชว์ และทดลองขับได้ตามวันและเวลาที่บริษัทฯ กำหนด









โตโยต้า ยังเผยแผนที่จะนำเข้ารุ่น อาร์เอ็กซ์ 450เอช (450h) มาขายในเมืองไทยในช่วงงานมอเตอร์โชว์

ผู้ติดตาม