อยากดูรถรุ่นอะไรเลือกดูได้เลยนะ

-------------------------------------- ค้นหาตามยี่ห้อรถ -------------------------------------
TOYOTAVOLVOTHAI RUNGSUZUKISUBARU SSANGYONGSKODASEATSAABROVERROLLSROYCEVOLKSWAGENRENAULT PORSCHEPEUGEOTOPELNISSANMITSUBISHIMERCEDES-BENZMAZDAMASERATILOTUSLINCOLNLEXUSLAND ROVERLAMBORGHINI CITROENDAIHATSUFERRARIKIAJEEPJAGUARISUZUHYUNDAIHONDAHINOFORDFIATDAEWOO CHRYSLERCHEVROLETBMWBENTLEYAUSTIN MINIAUDIALFA ROMEOACURA

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Fisker Karma สปอร์ตพลังไฟฟ้าทางเลือกใหม่

ฟิส เคอร์ ออโต้โมทิฟ แบรนด์รถยนต์อิสระที่นำทัพโดยเฮนริก ฟิสเคอร์ อดีตนักออกแบบชื่อดังของแอสตัน มาร์ติน เขย่าตลาดครั้งใหม่ด้วยการส่งสปอร์ตซีดานระดับหรูรุ่นใหม่ในชื่อคาร์มาลงทำ ตลาด พร้อมความล้ำสมัยของระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด ปลั๊กอินที่สามารถเสียบปลั๊กเข้ากับไฟบ้านเพื่อชาร์จไฟได้

นี่เป็นผลผลิตรุ่นที่ 3 ของฟิสเคอร์ ออโต้โมทิฟ หลังจากที่ในปี 2006 ส่งรถสปอร์ต 2 รุ่นออกมาขายในชื่อลาติโก ซีเอส และทรามอนโต้ ซึ่งคาร์มาที่เปิดตัวต้นแบบในปี 2008 กลายเป็นประเด็นร้อนของแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์พลังสีเขียวพอสมควร

เมื่อ ค่ายเทสล่า มอเตอร์จัดการยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2008 ว่าฟิสเคอร์ขโมยไอเดียในการออกแบบรถยนต์ของตัวเองไป เพราะก่อนหน้านั้นทางเทสล่าเคยว่าจ้างฟิสเคอร์ โคชบิลเดอร์ บริษัทแม่ของฟิสเคอร์ ออโต้โมบิลในการออกแบบรถยนต์ซีดานในชื่อโมเดล เอสขึ้นมา และบริษัทนี้ได้ขโมยไอเดียของตัวเองมาปรับปรุงและพัฒนามาเป็นรุ่นคาร์มา แต่สุดท้ายเมื่อวัน 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฟิสเคอร์ ออโต้โมทิฟแถลงข่าวว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดตกไป และทางบริษัทสามารถเดินหน้าพัฒนารถยนต์ซีดานไฮบริด ปลั๊กอินรุ่นนี้ได้แล้ว

โปรเจ็กต์นี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างฟิสเคอร์ ออโตโมทิฟ กับแควนตัม เทคโนโลยี ซึ่งใต้ฝากระโปรงของรถยนต์ซีดาน 4 ประตูขนาด 4.97 เมตรมาดสปอร์ตรุ่นนี้ มีการติดตั้งขุมพลังไฮบริดแบบปลั๊กอินเอาไว้ โดยหน้าที่หลักในการทำงานเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในรหัส Ecotec ของค่ายจีเอ็ม ซึ่งเป็นแบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี เทอร์โบ ที่มีกำลังสูงสุด 260 แรงม้า และมีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวซึ่งมีกำลังรวมกัน 201 แรงม้าเข้ามามีส่วนช่วยในการขับเคลื่อน

จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้คือ สามารถขับเคลื่อนในรูปแบบไฟฟ้าด้วยโหมดที่เรียกว่า Stealth Mode ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวจะรับหน้าที่ขับเคลื่อนโดยอาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ซึ่งสามารถเสียบปลั๊กกับไฟบ้านชาร์จกระแสไฟฟ้าได้ทุกเวลาที่ไม่ได้ใช้รถยนต์

โดย สามารถขับได้ระยะทาง 50 ไมล์ หรือ 80 กิโลเมตร เรียกว่าใครที่มีที่ทำงานอยู่ใกล้บ้าน ก็แทบจะไม่ต้องพึ่งเครื่องยนต์เลย แค่ใช้โหมดนี้ในการขับเคลื่อนก็พอแล้ว เมื่อถึงที่ทำงานหรือที่บ้านก็เสียบปลั๊กชาร์จไฟเพื่อชดเชยกระแสไฟฟ้าใน แบตเตอรี่ที่เสียไป

ส่วนอีกโหมดเรียกว่า Sport Mode ซึ่งเป็นการทำงานอย่างเต็มรูปแบบร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ ไฟฟ้าในการรีดสมรรถนะขับเคลื่อน และทำให้คาร์มามีความเร้าใจด้วยอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.7 วินาที และทำความเร็วปลายได้ 201 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยในโหมดนี้สามารถแล่นทำระยะทางต่อการเติมน้ำมัน 1 ถังและการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้งด้วยระยะทาง 300 ไมล์ หรือ 482 กิโลเมตร

นอกจากนั้นทางบริษัทยังมีออพชั่นสุดพิเศษด้วยการติดตั้งแผงโซ ลาร์เซลล์บนหลังคา เพื่อช่วยในการเก็บสะสมกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่เวลาที่แล่นในช่วงกลางวัน และยังช่วยในเรื่องของการส่งกระแสไฟฟ้าให้กับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร อีกด้วย

การ ผลิตของคาร์มาจะอยู่ที่โรงงานของวัลเมท ออโตโมทิฟ ในประเทศฟินแลนด์ ซึ่งในปัจจุบันโรงงานแห่งนี้รับหน้าที่ผลิตรถยนต์ของพอร์ชทั้งรุ่นเคย์แมน และบ็อกสเตอร์ ราคาของคาร์มาจะอยู่ที่ประมาณ 85,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.9 ล้านบาท

คาดว่าในช่วง 2 ปีนี้จนถึงปี 2010 จะมีการผลิตออกมา 15,000 คัน เพื่อขายทั้งในสหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยในยุโรปซึ่งฟิสเคอร์ยังไม่ได้วางขาย แต่มีการเปิดเผยว่าได้รับความสนใจเกินคาด เพราะมียอดจองเข้ามาแล้วถึง 800 คัน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม